อะมอไรท์

อมอไรท์ (The Amorites)
                ชนทะเลทรายเผ่าหนึ่ง คือ อมอไรท์ได้เข้ายึดครองกรุงบาบิโลนเมื่อ 2000 B.C. บาบิโลนเข้มแข็งขึ้นตามลำดับจนได้เป็นนครใหญ่ของอาณาจักร
เมโสโปเตเมียทั้งหมด ซึ่งต่อมาเป็นที่รู้จักกันแพร่หลายว่าจักรวรรดิบาบิโลเนีย พวกบาบิโลนสามารถเอาชนะบรรดาเพื่อนบ้านคือพวกอัคคาเดียน และสุเมเรียนได้
  กษัตริย์ที่มีชื่อเสียงมากพระองค์หนึ่งคือ กษัตริย์ฮัมมูราบี ผู้ทรงสร้างประมวลกฏหมายที่มีชื่อว่า 
“The Code of Hammurabi”
ความเจริญของอาณาจักรบาบิโลเนียเก่าในสมัยของกษัตริย์ฮัมมูราบี
                พระเจ้าฮัมมูราบีทรงเป็นกษัตริย์ที่สามารถรวบรวมดินแดนแม่น้ำไทกริส-ยูเฟรตีส เข้าไว้ในอำนาจแต่เพียงผู้เดียว และสถาปนารัฐบาลที่เข้มแข็งขึ้น
ปกครองบาบิโลนซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นเพียงเมืองเล็กๆ ที่ไม่มีความหมายสำคัญกลายเป็นศูนย์กลางของนักปราชญ์ราชบันฑิตเป็นจักรวรรดิบาบิโลเนียแรก 
(First Babylonian Empiire) ทรงปกครองอยู่ 43 ปี (1792-1750 B.C.) ทรงมีผลงานสำคัญ คือ
ก.       การร่างประมวลกฎหมาย (Hammurabi Code)  พระเจ้าฮัมมูราบีทรงเป็นที่รู้จักในฐานะเป็น
ผู้สร้างประมวลกฎหมายเกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ สังคม และจริยธรรมแห่งชีวิตด้วย ทรงกล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการจัดทำประมวลกฎหมายว่า :
เพื่อผดุงความยุติธรรมให้คงอยู่ในแผ่นดิน ทำลายคนชั่วและคนร้าย ป้องกันคนแข็งแรงข่มเหงคนที่อ่อนแอกว่า...และเพื่อพัฒนาสวัสดิการสำหรับประชาชน
ประมวลกฎหมายนี้จารึกอยู่บนแผ่นดินไดโดไรท์สีดำ ขนาดสูง ฟุต จารึกด้วยอักษร Cuniform ประมวลกฎหมายนี้ประดิษฐ์ไว้ในวิหารของเทพมาร์คุด (marduk) ซึ่งเป็นเทพสูงสุดของบาบิโลน นักโบราณคดีชาวฝรั่งเศสได้ค้นพบแผ่นหินดังกล่าวในปี ค.ศ. 1901 ตอนบนของแผ่นหินมีรูปแกะสลักภาพเทพเจ้ากำลังประทาน
ประมวลกฎหมายให้แก่ ฮัมมูราบี แผ่นหินนี้นับเป็นโบราณวัตถุที่มีค่ายิ่งในทางประวัติศาสตร์ เพราะข้อความในประมวลกฎหมายสะท้อนให้เห็นถึงสภาพของสังคม 
Babylonia ในสมัยนั้นเป็นอย่างดี ทำให้เราทราบว่า Babylonia ประกอบขึ้นด้วยคนชั้นต่างๆ คือ กรรมกรและทาส

ความคิดเห็น